ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

อาชีพ บาริสต้า มากกว่าแค่คนชงกาแฟ! วันนี้ Toszy house พาไปรู้จักหน้าที่ ความสามารถ เส้นทางการเป็นบาริสต้า และความน่าสนใจของอาชีพนี้

เปิดโลก บาริสต้า อาชีพสุดสร้างสรรค์ ผสานศาสตร์และศิลป์ของกาแฟ
เคยสงสัยไหมว่า กาแฟแก้วโปรดของคุณ ผ่านมือใครมาบ้างก่อนที่จะมาถึงมือคุณ? คำตอบก็คือ “บาริสต้า” ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ ผู้รังสรรค์กาแฟด้วยความพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ การชง และการสร้างสรรค์ลวดลายบนฟองนมอันสวยงาม บทความนี้จะพาคุณไป เปิดโลก ของ บาริสต้า อาชีพที่ผสมผสานทั้ง ศาสตร์ และ ศิลป์ ของกาแฟ

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

บาริสต้าคือใคร?

บาริสต้า (Barista) มาจากภาษาอิตาลี แปลว่า “ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ” ไม่ใช่แค่ คนที่ชงกาแฟเท่านั้น แต่ต้องมีความสามารถ ดังต่อไปนี้

  • มีความรู้ด้านกาแฟอย่างลึกซึ้ง: ตั้งแต่แหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์ กระบวนการผลิต การคั่ว การบด รวมไปถึงรสชาติและกลิ่นที่แตกต่างกัน
  • เชี่ยวชาญการใช้อุปกรณ์ชงกาแฟ: ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟแบบต่างๆ เครื่องบดกาแฟ อุปกรณ์ชงแบบดั้งเดิม ฯลฯ
  • สามารถสร้างสรรค์เมนูกาแฟได้หลากหลาย: ทั้งเมนูกาแฟคลาสสิคและเมนูพิเศษ
  • มีทักษะการบริการลูกค้าที่ดี: สามารถแนะนำเมนู ตอบคำถามเกี่ยวกับกาแฟ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
  • รักษาความสะอาดและองสถานที่ทำงานและอุปกรณ์ต่างๆ

หน้าที่หลัก ของ บาริสต้า ได้แก่

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา
  • รับออเดอร์ จากลูกค้า
  • ชงกาแฟ ตามเมนูที่ลูกค้าสั่ง
  • ตกแต่งกาแฟ ด้วยลวดลายบนฟองนม (Latte Art)
  • ทำความสะอาด สถานที่ทำงานและอุปกรณ์ต่างๆ
  • บริการลูกค้า ด้วยความสุภาพและเป็นมิตร

ทักษะที่จำเป็น สำหรับ บาริสต้า ได้แก่

ทักษะการชงกาแฟ: ต้องมีความแม่นยำ รวดเร็ว และสามารถควบคุมปัจจัยต่างๆ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติคงที่

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

เส้นทางสู่การเป็น บาริสต้า

เส้นทางสู่การเป็น บาริสต้า ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว แต่โดยทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งออกเป็นดังนี้

  • การศึกษาและฝึกอบรม: มีสถาบันสอนชงกาแฟมากมาย เปิดสอนหลักสูตรตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับมืออาชีพ หลักสูตรเหล่านี้จะสอนทั้ง ทฤษฎี และ ปฏิบัติ เกี่ยวกับกาแฟ การใช้เครื่องชง การสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีคอร์สออนไลน์ฟรีและแบบเสียค่าใช้จ่าย ให้เลือกเรียนอีกด้วย
  • การฝึกงาน: ร้านกาแฟหลายแห่งเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ ฝึกงาน เพื่อเรียนรู้ประสบการณ์จริง การฝึกงานเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้เรียนรู้จาก บาริสต้า มืออาชีพ และฝึกฝีมือการชงกาแฟ
ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

เส้นทางการเติบโตในสายอาชีพ บาริสต้า มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความสามารถ ความตั้งใจ และประสบการณ์

  • บาริสต้าระดับเริ่มต้น: เริ่มต้นจากการชงกาแฟเมนูพื้นฐาน เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ต่างๆ และให้บริการลูกค้า
  • บาริสต้าระดับกลาง: สามารถชงกาแฟได้หลากหลายเมนู มีความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องชงกาแฟต่างๆ และสามารถสร้างสรรค์เมนูพิเศษได้
  • หัวหน้าบาริสต้า: มีหน้าที่ดูแลร้านกาแฟ ควบคุมคุณภาพของกาแฟ ฝึกสอนบาริสต้ารุ่นใหม่ และบริหารจัดการร้าน
  • ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ: มี ความรู้ และ ประสบการณ์ สูง อาจเป็น กรรมการ ในการแข่งขันชงกาแฟ เป็น ที่ปรึกษา ให้กับร้านกาแฟ หรือ เปิดร้านกาแฟ ของตัวเอง

ประวัติศาสตร์อันน่าสนใจของอาชีพ บาริสต้า

จุดเริ่มต้นของอาชีพ บาริสต้า เชื่อกันว่า เกิดขึ้นใน ประเทศอิตาลี เมื่อราวปี ค.ศ 1938 ช่วงเวลานั้นเครื่องชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ่ (Espresso Machine) ได้รับความนิยมในร้านกาแฟ (Coffee House) และกลายเป็นสถานที่พบปะสังสรรค์ ดังนั้นร้านจึงมีความต้องการ ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟที่มีรสชาติและคุณภาพที่ดี

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

วิวัฒนาการ ของอาชีพ บาริสต้า มีการเปลี่ยนแปลงไปตาม ยุคสมัย

  • ยุคแรก เน้น การชงกาแฟ อย่าง แม่นยำ และ รวดเร็ว
  • ยุคกลาง เริ่มมีการ ประดิษฐ์ ลวดลายบนฟองนม (Latte Art) เพิ่มความสวยงามให้กับกาแฟ
  • ยุคปัจจุบัน เน้น ความคิดสร้างสรรค์ มีการ พัฒนา เมนู กาแฟ หลากหลายรูปแบบ พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับ ประสบการณ์ ของลูกค้า

บทสรุป: อาชีพ บาริสต้า เป็นมากกว่าแค่คนชงกาแฟ

อาชีพ บาริสต้า ไม่ใช่แค่การชงกาแฟเท่านั้นแต่เป็นผู้ผสมผสานระหว่าง ศาสตร์ และ ศิลป์ บาริสต้า จึงต้องมีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และ ใจรัก ในการสร้างสรรค์กาแฟ เพื่อให้ได้กาแฟที่ สมบูรณ์แบบ ทั้ง กลิ่น รสชาติ พร้อมทั้งรูปลักษณ์อันสวนงาม

บทความแนะนำ

เผย 4 เคล็ดลับ วิธี เลือกไวน์ ยังไงให้อร่อยถูกใจ!!!

เคยมั้ยเดินตามห้างในโซนเครื่องดื่มหรือตามร้านขายเครื่องดื่มไม่รู้จะเลือกไวน์อะไร Toszy house มี 4 เคล็ดลับ วิธี เลือกไวน์ในห้างหรือตามร้านยังไงให้อร่อยถูกใจ 1. ความรู้สึก : วันนี้ต้องคุณการดื่มไวน์ประเภทใด ไวน์มีกลิ่นรสชาติที่แตกต่างกันหลากหลายประเภท มีความหนักเบาต่างกัน ไวน์ที่รสชาติเข้มข้นส่วนใหญ่จะนำมาดื่มจับคู่กับอาหารมื้อหนักๆ ไวน์ที่เบา ไวน์ที่มาดื่มชิวๆ จิ๊บไปเรื่อยๆสบายๆก็มีมากมาย เราจึงต้องรู้ถึงความรู้สึกฟิววันนั้นที่ต้องการว่าเราจะทำไรบ้างแล้วมา 2.ดูเงินในกระเป๋า : กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม ไวน์แพงๆใช่ว่าจะดีถูกปากเสมอไป หากเลือกไวน์เป็นและจับคู่กับไวน์ให้ถูก ประหยัดงบไปซื้อกับแกล้มได้อีก

Sommelier

ซอมเมอลิเย่ Sommelier คือใคร?

เคยมั้ยคะ เวลาเข้าร้านอาหารหรู ๆมีไวน์จะมีพนักงานที่ใส่ชุดสูทดูดี พูดคุยกับแขกอย่างคล่องแคล่ว คนนั้นแหละค่ะอาจเป็น “ซอมเมอลิเย่” “ซอมเมลเย่” (pronounced some-mel-yea) คือ ผู้เชี่ยวชาญไวน์ระดับเทพ เปรียบเหมือนไกด์นำทางในโลกไวน์ บอกลาความงงเวลาเจอเมนูไวน์ยาวเหยียด แค่มีซอมเมอลิเย่คอยข้างกาย มื้อพิเศษของคุณก็หรูระดับมิชลินได้เลย! เส้นทางสู่ซอมเมอลิเย่: เรียนอะไร ฝึกฝนอย่างไร? กว่าจะเป็นซอมเมอลิเย่ไม่ได้ง่าย ๆ นะคะ พวกเขาต้องผ่านการฝึกฝนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเข้มข้น เริ่มจาก การเรียนรู้สายไวน์ ตั้งแต่ประเภทของไวน์

ไวน์เสีย ดูยังไง ดื่มไปอาจเป็นอันตรายได้

ไวน์เสีย ดูยังไง ดื่มไปอาจเป็นอันตรายได้

ไวน์เป็นเครื่องดื่มที่มีอายุ ถ้าเก็บรักษาดูแลไม่ถูกวิธีไวน์อาจเสียได้ง่ายๆซึ่งบางทีเราไม่รู้ว่าไวน์ตัวนั้นเสียดื่มไปอาจเปฌนอันตรายได้เลยวันนี้ Toszy house จะมาบอกวิธีสังเกตไวน์ที่เสียกัน ฝาหรือจุกคร๊อกไม่สมบูณ์ ไวน์จะมีฝาเกลียวกับเป็นจุกไม้คร๊อกถ้าเปิดฝาหรือจุกเกิดมีชำรุดอากาศเข้าไปทำให้ไวน์เสียได้เลย สีของไวน์ โดยปกติสีของไวน์แดงจะออกเป็นโทนสีแดง ม่วง ถ้าไวน์มีอายุมากไวน์แก่ก็จะมีเฉดสีไปทางน้ำตาลหน่อย แต่ถ้าไวน์เสียจะเห็นได้ชัดคือน้ำไวน์ขุ่นสีน้ำตาลเข้มๆถ้าเห็นสีแบบนี้ไม่ควรดื่มเด็ดขาด กลิ่นของไวน์ กลิ่นปกติของไวน์แดงจะเป็นกลิ่นผลไม้ต่างๆตระกูลเบอร์รี่ หรือกิล่นดืน กลิ่นหนัง พลัม ขึ้นอยู่กับไวน์แต่ละตัว แต่ถ้าเปิดขวดแล้วกลิ่นเหม็นเปรี้ยวกลิ่นเหมือนน้ำซีอิ้วหรือซอส นั้นคือไวน์ได้เสียเรียบร้อยให้รีบหยุดและทิ้งเลย การเก็บไวน์ วิธีการเก็บไวน์นั้นสำคัญมากบางคนอาจจะไม่สนใจและมองข้ามเรื่องนี้แต่รู้มั้ยว่าเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะไวน์ถ้าเก็บในอุณภูมิที่ร้อนและโดนแสงแดดจะทำให้ไวน์เสีย ถึงไม่เสียก็อาจจะทำให้ไวน์รสชาติผิดเพี้ยนไป ไม่อร่อย

ไวน์หนึ่งขวดนั้นจะรินไวน์ได้ประมาณกี่แก้ว

เคยสงสัยมั้ยว่าไวน์หนึ่งขวดนั้นจะรินไวน์ได้ประมาณกี่แก้ว

ไวน์หนึ่งขวดนั้นจะรินไวน์ได้ประมาณกี่แก้วจะรินขวดมาตราฐานจะมีปริมาณ 750ml การเสริฟไวน์ตามมาตราฐาน อ้างอิงจากหนังสือ Wine Folly นั้นคือแก้วละ 5 ออน หรือ 150ml ดังนั้นไวน์หนึ่งขวดจะสามารถรินได้ 5 แก้วนั้นเอง ซึ่งการรินปริมาณครั้งละ 150ml จะทำให้ระดับน้ำไวน์อยู่จุดที่เกือบจะถึงจุดที่กว้างที่สุดของแก้วทุกทรงที่เป็นขนาดทรงมาตราฐานนะเป็นจุดที่พอดีไม่มากไม่น้อย Toszy house มีทริคเล็กๆคือให้รินไวน์ถึงจุดที่เกือบจะกว้างที่สุดของแก้วแล้วคุณจะได้ปริมาณราวๆ150ml แต่นี้ก็เป็นเพียงมาตราฐานเท่านั้น จริงๆ ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับ ขนาด

ร้าน Toszy house

ไวน์แดงกินคู่กับอะไร: คู่มือจับคู่ไวน์แดงกับอาหารจานโปรด

ไวน์แดงกินคู่กับอะไร ปลดล็อคความอร่อยของไวน์แดงคู่กับอาหารจานเด็ด! คู่มือจับคู่ไวน์แดงกับอาหารไทยและเทศ พร้อมเคล็ดลับเลือกไวน์ให้อร่อยลงตัว ก่อนอื่นมาทำความรู้มาจักกับไวน์แดงก่อน เริ่ม!!! ไวน์แดงคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ผลิตจากองุ่นแดง โดดเด่นด้วยรสชาติเข้มข้น แทนนินสูง และกลิ่นหอมของผลไม้ เบอร์รี่ ดอกไม้ และเครื่องเทศ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมทั่วโลกมานานหลายศตวรรษ รสชาติและรสสัมผัสของไวน์แดง รสชาติของไวน์แดงมีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับองุ่นที่ใช้ กรรมวิธีการผลิต และระยะเวลาการบ่ม โดยทั่วไปจะมีความฝาด แทนนินสูง มีรสเปรี้ยวจากกรดผลไม้ และรสหวานจากน้ำตาลธรรมชาติในองุ่น อาจมีกลิ่นหอมของผลไม้ เช่น

ดื่มอะไรช่วยให้แก้แฮงค์ หลังปาร์ตี้อันแสนหนักหน่วง

ดื่มอะไรช่วยให้แก้แฮงค์วันนี้ Toszy house จะมาแนะนำเครื่องดื่มช่วยแก้แฮงค์กัน คืนนี้คุณปาร์ตี้หนักมาจนดึกดื่น ตื่นเช้ามาก็รู้สึกปวดหัว มึนงง คลื่นไส้ ไม่อยากทำอะไร อาการเหล่านี้เป็นอาการของ แฮงค์ นั่นเอง การแฮงค์เกิดจากร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาไม่หมด ส่งผลให้สารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา มีเครื่องดื่มหลายชนิดที่เชื่อว่าช่วยแก้แฮงค์ได้ แต่จะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ความรุนแรงของอาการแฮงค์ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และห้ามกินยาพาราในการแก้แฮงค์อย่างเด็ดขาดเป็นอันตรายอย่างมาก อาการแฮงค์ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่