ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

แก้วยูเรเนียม คืออะไร? เรียนรู้ประวัติความเป็นมา การผลิต รวมถึงความสวยงามและความปลอดภัยในการใช้งาน

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

แก้วยูเรเนียม เป็นแก้วชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของยูเรเนียมออกไซด์ ทำให้แก้วมีความสวยงามและมีคุณสมบัติทางแสงที่โดดเด่น โดยเฉพาะการเรืองแสงในที่มืด ซึ่งก็มีการผลิต แก้วเชมเปญยูเนียม แก้วไวน์ยูเรเนียมด้วยนะ วันนี้ Toszy house เลยจะมาพาทำความรู้จักกับแก้วยูเรเนียมกัน

ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของ แก้วยูเรเนียม

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา
รูปจาก wikipedia

ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 นักเคมีชาวเยอรมันชื่อ มาร์ทีน ไฮน์ริช คลัพโรท (Martin Heinrich Klaproth) นักเคมีชาวเยอรมันที่เป็นคน ค้นพบธาตุยูเรเนียมจากแร่พิตช์เบลนด์ ซึ่งเป็นแร่ที่มีสีดำและมีความหนาแน่นสูง ต่อมาในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ยูเรเนียมเริ่มถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตแก้ว เนื่องจากคุณสมบัติทางแสงที่สวยงามและแปลกตา

แก้วยูเรเนียม ได้รับความนิยมอย่างสูงในช่วงยุควิกตอเรียนและอาร์ตนูโว โดยถูกนำมาใช้ในการผลิตเครื่องแก้วหลากหลายชนิด เช่น แก้วน้ำ แก้วไวน์ แก้วเชมเปญ จาน ชาม และโคมไฟ ปัจจุบันเป็นของหายาก เพราะยูเรเนียมถูกใช้ไปในช่วงยุคสงคราม หลังจากนั้นยูเรเนียมจึงเป็นของหายากเลยไม่มีการนำมาผลิตเครื่องแก้วอีก

กระบวนการผลิต แก้วยูเรเนียม

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

การผลิตแก้ว ยูเรเนียม คล้ายกับการผลิตแก้วทั่วไป โดยวัตถุดิบหลักที่ใช้คือ ซิลิกา โซดา แคลเซียมคาร์บอเนต และยูเรเนียมออกไซด์ ขั้นตอนการผลิตเริ่มจากการผสมวัตุดิบเหล่านี้เข้าด้วยกัน โดยมักจะใส่ในอัตราส่วนยูเรเนียมเพียงเล็กน้อย ไปจนถึง 2% ของน้ำหนัก แต่ก็มีที่บางชิ้นในช่วงศตวรรษที่ 20 ที่ใส่ยูเรเนียมเข้าไปถึง 25% แล้วนำไปหลอมละลายที่อุณหภูมิสูง จากนั้นจึงนำไปขึ้นรูปและตกแต่ง

ความสวยงาม

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

แก้วยูเรเนียม มีคุณสมบัติทางแสงที่โดดเด่น โดยเฉพาะการเรืองแสงในที่มืด ซึ่งเกิดจากการที่ยูเรเนียมออกไซด์ดูดซับรังสีจากแสงแดดหรือแสงไฟ แล้วปล่อยพลังงานออกมาในรูปแบบของแสงสีเขียวอมเหลือง โดยเราจะรู้ได้โดยการน้ำไฟฉายแบลค์ไลท์ส่องไปที่ตัวแก้ว แก้วจะเรืองแสงเป็นสีเขียวสวยงาม ปัจจุบันเป็นของนักสะสมหายาก ค่อนข้างจะมีราคาแพง ขึ้นอยู่กับสภาพและความสวยงาม เป็นที่ต้องการของนักสะสม

ข้อควรระวัง แก้วที่เป็นสีเขียวอาจะไม่ใช่แก้วยูเรเนียมจริงๆ ต้องใช้แสงแบลคไลทในการตรวจสอบ

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

แก้วยูเรเนียม อันตรายมั้ย?

แม้ว่า แก้วยูเรเนียม จะมีกัมมันตภาพรังสี แต่ระดับรังสีนั้นต่ำมาก ไม่ได้มีรัศมีแผ่ออกมามาก จึงไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์

อย่างไรก็ตามถึงจะไม่เป็นอันตราย แต่ควรระมัดระวังในการใช้งานแก้ว ยูเรเนียม โดยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังเป็นเวลานาน และไม่ควรนำแก้วมาใช้ในการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ใส่ตู้ไว้โชว์น่าจะดีกว่า

ทำความรู้จักกับ แก้วยูเรเนียม ประวัติศาสตร์และความเป็นมา

มาถึงตรงนี้ก็ได้รู้จักกับแก้วยูแรเนียมกันแล้ว ซึ่ง แก้วไวน์ยูเรเนียม ก็มีหลายแบบสวยๆมากมาย toszy house หวังว่าสายดื่มไวน์น่าจะชอบกัน

บทความแนะนำ

ทำความรู้จักกับ Sangiovese : องุ่นแดงเลื่องชื่อจากอิตาลี

สายพันธุ์องุ่น Sangiovese Sangiovese เป็นองุ่นแดงสายพันธุ์หนึ่งที่ปลูกกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในอิตาลี คิดเป็นประมาณ 20% ของพื้นที่ปลูกองุ่นทั้งหมดในประเทศ องุ่นสายพันธุ์นี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี เชื่อกันว่าเป็นพันธุ์องุ่นป่า (wild native grape) ในวงศ์ซิลเวสตริส (V.silvestris) ที่อาศัยอยู่ในอิตาลีตอนกลางตั้งแต่สมัยโรมันโบราณ องุ่น Sangiovese มีชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคของอิตาลี เช่นใน เรียกว่า Brunello di Montepulciano หมายถึง ไวน์แดงที่ผลิตจากผลองุ่นพันธุ์ซางจิโอเวเซ

แนะนำ 5 ประเภทของไวน์ที่มือใหม่ต้องรู้

แนะนำ 5 ประเภทของไวน์ที่มือใหม่ต้องรู้

เคยส่งสัยมั้ยว่าไวน์มีกี่ประเภท อะไรบ้าง วันนี้ Toszy house จะมาแนะนำ 5 ประเภทของไวน์ที่มือใหม่ต้องรู้ 1.ไวน์แดง ไวน์แดงคืออะไร เข้าใจง่ายๆ ไวน์แดงคือไวน์ที่ทำจากองุ่นพันธุ์ผิวสีเข้ม การหมักจะนำองุ่นไปหมักทั้งเปลือกเพื่อให้ไวน์มีสี รส ความเป็น กรด และระดับแทนนินที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คาแลคเตอร์ของไวน์แดง 2.ไวน์ขาว ไวน์ขาวคืออะไร? ไวน์ขาวทำโดยการหมักพันธุ์องุ่นที่มีผิวสีเขียว องุ่นดำก็สามารถผลิตไวน์ขาวได้เพียงแต่ต้องเอาเปลือกออกจากองุ่นก่อนการหมัก คาแลคเตอร์ของไวน์ขาว 3.โรเซ่ไวน์ โรเซ่ไวน์ทำจากองุ่นที่ใช้ผลิตไวน์แดงแดงโดยจะใช้การหมักน้ำองุ่นกับเปลือกองุ่นในเวลาไม่มาก

เคล็ดลับการเลือกแก้วไวน์ให้เข้ากับไวน์แต่ละประเภท

Toszy house พาคุณไปรู้จักทรงแก้วไวน์หลากแบบ พร้อมไขข้อสงสัย แก้วแบบไหนเหมาะกับไวน์ประเภทใด ดื่มด่ำรสชาติไวน์ได้อย่างเต็มอรรถรส ใครที่หลงใหล่ในรสชาติอันละเมียดของไวน์ คงทราบดีว่านอกจากการเลือกชนิดไวน์ที่ถูกใจแล้ว การเลือก “แก้วไวน์” ที่เหมาะสมก็มีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง! เพราะทรงแก้วแต่ละแบบออกแบบมาเพื่อเสริมรสชาติและกลิ่นของไวน์ประเภทต่างๆ โดยเฉพาะ Toszy house จะพาคุณไปท่องโลกแห่งทรงแก้วไวน์ คลายข้อสงสัย เลือกแก้วให้เข้าคู่กับไวน์แก้วโปรด เพิ่มอรรถรสในการดื่มด่ำทุกหยด! ** ไขข้อสงสัย: ทำไมต้องเลือกแก้วไวน์ให้เหมาะ** หลายคนอาจสงสัยว่า แค่แก้วใส่ไวน์ก็เหมือนกันหมดแล้วมั้ย? คำตอบคือ

ล้าง Decanter ยังไง

ล้าง Decanter ยังไง ให้สะอาดใสปิ๊ง!

ไวน์หมดแต่ดีแคนเตอร์ยังเลอะ? อย่าเพิ่งปวดหัวไป! มาดูเทคนิคเด็ด ล้างดีdecanter แคนเตอร์ให้อย่างง่าย มือใหม่ก็ทำได้ ล้าง decanter ดีแคนเตอร์ ปัญหาโลกแตกของสายไวน์ decanter คืออะไร Toszy house ได้เขียนบทความไว้แล้วไปตามอ่านได้ การจิบไวน์เพลินๆอย่างมีความสุขแล้ว ถ่ายรูปแก้วคู่กับ decanter สวยๆ ปัญหาชวนปวดหัวต่อมาคือการทำความสะอาด decanter เนื่องด้วยรูปทรงของ decanter แต่ละทรงนั้นไม่เหมือนกัน ถ้าทรงโถธรรมดาแปรงฟองน้ำยาวๆอาจจะเข้าถึง

เหตุผล 3 ข้อทำไมไวน์จึงมีส่วนสำคัญต่อวันวาเลนไทน์

เหตุผล 3 ข้อทำไมไวน์จึงมีส่วนสำคัญต่อวันวาเลนไทน์

วันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปีที่คู่รักมีโอกาสแสดงความรักแก่กัน ในหลายรูปแบบวิธี ไวน์ก็มีส่วนสำคัญในการแสดงความรักต่อกัน เพราะสำหรับค่ำคืนโรแมนติกที่คู่รักทั้งสองจิบไวน์ที่ชื่นชอบนั้นจะช่วยเพิ่มโอกาสพิเศษให้กับวันวาเลนไทน์ได้ 3 เหตุผลว่าทำไมไวน์จึงเป็นสิ่งจำเป็นในวันวาเลนไทน์ Share this… Facebook Line Twitter Pinterest

ไวน์ Robert Mondavi: ตำนานไวน์โลกใหม่ที่พลิกโฉมวงการ

หากกล่าวถึงไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก คงหนีไม่พ้นชื่อของ “Robert Mondavi” ไวน์สัญชาติอเมริกันที่เปี่ยมด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ยอมรับในหมู่นักดื่มทั่วโลก วันนี้Toszy houseขอพาคุณไปรู้จักกับไวน์ Robert Mondavi ให้มากขึ้น พร้อมเจาะลึกเรื่องราวความเป็นมา กรรมวิธีการผลิต และไวน์รุ่นยอดนิยม ที่จะเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณให้พิเศษกว่าที่เคย ย้อนรอยประวัติศาสตร์: กำเนิดไวน์ Robert Mondavi ย้อนกลับไปเมื่อปี 1966 ในใจกลางหุบเขา Napa Valley อันเลื่องชื่อ