แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

เคยไหมเวลาไปร้านอาหารหรือร้านเหล้าอยากนั่งชิวดื่มค๊อกเทลสักแก้วแต่ไม่รู้จักจะสั่งเมนูอะไร วันนี้ toszy house จะมาแนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง การันตีได้ว่าดื่มเมื่อไหร่ก็ไม่มีวันเอ้าท์!

1. Dry Martini – เพียว เท่ห์

แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

Dry Martini ถือเป็นราชาแห่งค็อกเทลเลยก็ว่าได้! แก้วนี้เป็นเครื่องดื่มโปรดของสายลับสุดเท่ห์อย่าง James Bond ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีส่วนผสมหลักเพียงแค่ Gin (จิน) และ Dry Vermouth (เวอร์มุตขาว) ในปริมาณที่น้อยมาก เน้นความ “แห้ง” (Dry) คือ แทบจะไม่มีรสชาติอื่นนอกจากกลิ่นหอมของ Gin สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย อาจจะรู้สึกว่าค่อนข้างแรง แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบ Dry Martini จะหลงใหลในความเรียบง่าย เท่ห์ และคลาสสิคเหนือกาลเวลา

2. Old Fashioned – คลาสสิคเหนือกาลเวลา

แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

Old Fashioned เป็นอีกหนึ่งคลาสสิคค็อกเทลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แก้วนี้ดื่มง่าย รสชาติกลมกล่อม เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ส่วนผสมหลัก ๆ ได้แก่ Whiskey (วิสกี้) น้ำตาล น้ำเปล่า และ Bitters (บิทเตอร์ส) ซึ่งเป็นเหล้าสมุนไพรที่มีรสขมนิด ๆ เสน่ห์ของ Old Fashioned อยู่ที่การ “Stir” (คน) แทนการเขย่า ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวล ละมุนละไม

3. Margarita – เปรี้ยวอมหวาน สดชื่นซาบซ่าน

แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

Margarita เป็นค็อกเทลยอดนิยมตลอดกาล มีต้นกำเนิดมาจากแถบเม็กซิโก แก้วนี้ดื่มง่าย รสชาติสดชื่น เปรี้ยวอมหวาน ส่วนผสมหลัก ๆ ได้แก่ Tequila (เตกีล่า) น้ำมะนาว และ Cointreau (คอintreau) หรือ Triple Sec (ทริปเปิ้ล เซค) เสน่ห์ของ Margarita อยู่ที่ขอบแก้วที่เคลือด้วยเกลือ ช่วยเพิ่มมิติรสชาติให้มีความเค็มตัดกับความเปรี้ยวหวานได้อย่างลงตัว

4. Daiquiri – เรียบง่ายแต่โดดเด่น

แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

Daiquiri เป็นค็อกเทลคลาสสิคอีกแก้วที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบ caribbean มีจุดเด่นที่ความเรียบง่าย แต่โดดเด่น ส่วนผสมหลัก ๆ ได้แก่ Rum (รัม) น้ำมะนาว และ น้ำตาลทรายหรือไซรัป เสน่ห์ของ Daiquiri อยู่ที่รสชาติเปรี้ยวอมหวานสดชื่น ดื่มง่าย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย สามารถปรับเปลี่ยนสูตรได้ตามความชอบ เช่น เพิ่มสตรอว์เบอร์รี่ หรือ มะม่ง ลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติและสีสัน

5. Negroni – ขมนิด เปรี้ยวหน่อย เข้มถึงใจ

แนะนำ 5 คลาสสิคค็อกเทล ที่ควรลิ้มลอง

Negroni (เนกโรนี) เป็นค็อกเทลสไตล์อิตาเลียน มีรสชาติเข้มข้น ออกแนวขมนิด เปรี้ยวหน่อย เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบเครื่องดื่มรสชาติหนัก ๆ ส่วนผสมหลัก ๆ ได้แก่ Gin (จิน) Campari (คัมพารี) และ Sweet Vermouth (สวีท เวอร์มุต) เสน่ห์ของ Negroni อยู่ที่การผสมผสานกันอย่างลงตัว ของ Gin ที่มีกลิ่นหอม Campari ที่มีรสขม และ Sweet Vermouth ที่มีรสหวาน ทำให้ได้รสชาติที่ซับซ้อน น่าค้นหา

ค๊อกเทลยังมีอีกมากมายหลายเมนู นี่ก็เป็นแค่เพียง 5 คลาสสิคค๊อกเทลที่ Toszy house อยากแนะนำให้ได้ลอง

บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาโฆษณาขายของแต่อย่างใดเป็นเพียงการให้ความรู้เท่านั้น

บทความแนะนำ

แนะนำ 10 เพลง Jazz ที่ใช้ฟังคู่กับการดื่มไวน์แดง: จิบไวน์ จึกลึกซึ้งไปกับเสียงแซกโซโฟน

10 เพลง Jazz ที่ใช้ฟังคู่กับการดื่มไวน์แดง จินตนาการสิ… แสงเทียนสลัวๆ ส่องประกายระยิบระยับบนแก้วไวน์แดงชั้นดี กลิ่นหอมกรุ่นขององุ่นลอยมาแตะปลายจมูก จังหวะนั้น หากมีเสียงเพลง Jazz อันไพเราะลอยล่องมา… โอ้ อะไรจะสุขเสียยิ่งกว่า! ไวน์แดงและเพลง Jazz นั้นเป็นคู่หูชั้นเลิศราวกับเนื้อคู่ เสียงดนตรีที่ลึกซึ้ง อ่อนช้อย ผสมผสานกับรสชาติไวน์และความละมุนละไมของไวน์ ช่วยยกระดับประสบการณ์การดื่มให้เหนือชั้นกว่าเดิม ว่าแต่จะเลือกเพลง Jazz บทไหนดีล่ะ? ไม่ต้องกังวลไป

Chateau

ไขข้อข้องใจ ไวน์ Chateau คืออะไร เรียกยังไงให้ถูก

หลายคนมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ ไวน์ Chateau มันคือไวน์จากไหน ดีหรือไม่อย่างไร วันนี้ Toszy house จะพาทำความรู้จักกับคำนี้กัน คำว่า Chateau มาจาก ภาษาฝรั่งเศสที่มีความหมายในภาษาไทยว่า “ปราสาท” ในภาษาอังกฤษ คือ castleการออกเสียงในภาษาไทยคือ (ชา-โตว์) ไวน์ที่มี คำว่า Chateau จะมาจากฝรั่งเศส ยกตัวอย่าง เราจะเห็นได้จากไวน์จาก Bordeaux

ไวน์หนึ่งขวดนั้นจะรินไวน์ได้ประมาณกี่แก้ว

เคยสงสัยมั้ยว่าไวน์หนึ่งขวดนั้นจะรินไวน์ได้ประมาณกี่แก้ว

ไวน์หนึ่งขวดนั้นจะรินไวน์ได้ประมาณกี่แก้วจะรินขวดมาตราฐานจะมีปริมาณ 750ml การเสริฟไวน์ตามมาตราฐาน อ้างอิงจากหนังสือ Wine Folly นั้นคือแก้วละ 5 ออน หรือ 150ml ดังนั้นไวน์หนึ่งขวดจะสามารถรินได้ 5 แก้วนั้นเอง ซึ่งการรินปริมาณครั้งละ 150ml จะทำให้ระดับน้ำไวน์อยู่จุดที่เกือบจะถึงจุดที่กว้างที่สุดของแก้วทุกทรงที่เป็นขนาดทรงมาตราฐานนะเป็นจุดที่พอดีไม่มากไม่น้อย Toszy house มีทริคเล็กๆคือให้รินไวน์ถึงจุดที่เกือบจะกว้างที่สุดของแก้วแล้วคุณจะได้ปริมาณราวๆ150ml แต่นี้ก็เป็นเพียงมาตราฐานเท่านั้น จริงๆ ไม่มีอะไรตายตัว ขึ้นอยู่กับ ขนาด

Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง

มารู้จักองุ่น Syrah หรือ Shiraz ประวัติที่มาและความแตกต่าง องุ่นสายพันธุ์เดียวกัน แต่อะไรทำให้แตกต่าง

เจาะลึกเรื่องราวองุ่นแดงชื่อก้อง “Syrah” หรือ “Shiraz” เผยต้นกำเนิด เส้นทางสู่ไวน์ระดับโลก และความลับเบื้องหลังชื่อที่ต่างกัน พร้อมพาคุณไปลิ้มรสไวน์แต่ละสไตล์! เปิดตำนานองุ่นพันธุ์ “Syrah”: จากแคว้นโรน (Rhône Valley) สู่ทั่วโลก เคยสงสัยไหมว่า ไวน์แดงรสเข้มข้น หอมกรุ่นผลไม้สุก และแฝงกลิ่นพริกไทยเผ็ดร้อน ที่หลายคนหลงใหล นั้นมาจากองุ่นพันธุ์อะไร? คำตอบก็คือ “Syrah” องุ่นชื่อดังจากทางเหนือของแคว้นโรน (Rhône Valley)

ไวน์ Robert Mondavi: ตำนานไวน์โลกใหม่ที่พลิกโฉมวงการ

หากกล่าวถึงไวน์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก คงหนีไม่พ้นชื่อของ “Robert Mondavi” ไวน์สัญชาติอเมริกันที่เปี่ยมด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นที่ยอมรับในหมู่นักดื่มทั่วโลก วันนี้Toszy houseขอพาคุณไปรู้จักกับไวน์ Robert Mondavi ให้มากขึ้น พร้อมเจาะลึกเรื่องราวความเป็นมา กรรมวิธีการผลิต และไวน์รุ่นยอดนิยม ที่จะเปิดประสบการณ์การดื่มไวน์ของคุณให้พิเศษกว่าที่เคย ย้อนรอยประวัติศาสตร์: กำเนิดไวน์ Robert Mondavi ย้อนกลับไปเมื่อปี 1966 ในใจกลางหุบเขา Napa Valley อันเลื่องชื่อ

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

ทำความรู้จักกับอาชีพ บาริสต้า ประวัติและที่มา

อาชีพ บาริสต้า มากกว่าแค่คนชงกาแฟ! วันนี้ Toszy house พาไปรู้จักหน้าที่ ความสามารถ เส้นทางการเป็นบาริสต้า และความน่าสนใจของอาชีพนี้ เปิดโลก บาริสต้า อาชีพสุดสร้างสรรค์ ผสานศาสตร์และศิลป์ของกาแฟเคยสงสัยไหมว่า กาแฟแก้วโปรดของคุณ ผ่านมือใครมาบ้างก่อนที่จะมาถึงมือคุณ? คำตอบก็คือ “บาริสต้า” ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟ ผู้รังสรรค์กาแฟด้วยความพิถีพิถัน ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดกาแฟ การชง และการสร้างสรรค์ลวดลายบนฟองนมอันสวยงาม บทความนี้จะพาคุณไป เปิดโลก