ไวน์เสีย ดูยังไง ไวน์เสีย กินได้ไหม สัญญาณเตือน สาเหตุ และการรับมือ

ไวน์เสีย

ไวน์ เป็นเครื่องดื่มที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และความซับซ้อน แต่เช่นเดียวกับอาหารและเครื่องดื่มอื่นๆ ไวน์ก็มีโอกาสที่จะเสื่อมสภาพและเสียได้เช่นกัน การดื่มไวน์ที่เสียไม่เพียงแต่ทำให้เสียอรรถรส แต่ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย Toszy house จะพามาเรียนรู้วิธีสังเกตไวน์เสียและวิธีป้องกันไม่ให้ไวน์ของคุณกลายเป็นน้ำส้มสายชูกันดีกว่า!

ไวน์เสีย

สัญญาณบ่งบอกว่าไวน์เสีย

เมื่อไวน์เสีย มักจะแสดงสัญญาณเตือนที่ชัดเจนหลายประการ ได้แก่:

  1. สีที่ผิดเพี้ยน: ไวน์แดงที่เสียให้สังเกตว่า จากสีแดงจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลหรือสีส้มคล้ำ ส่วนไวน์ขาวที่เสียอาจมีสีเหลืองเข้มหรือสีน้ำตาลอ่อน ดูง่ายๆคือสีผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น
  2. กลิ่นฉุนหรือกลิ่นแปลกปลอม: ไวน์เสียมักมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวคล้ายน้ำส้มสายชู กลิ่นอับเหมือนกระดาษลัง หรือกลิ่นเหม็นคล้ายไข่เน่า
    สังเกตได้เวลาดมจะเหม็น ปวดหัว คลื่นไส้ อยากอ้วกได้เลย
  3. รสชาติผิดเพี้ยน: ไวน์เสียจะมีรสชาติเปรี้ยวจัด ฝาด หรือขมผิดปกติ บางครั้งอาจรู้สึกซ่าและมีฟองอากาศ ถ้าดื่มเข้าไปจะรู้ได้ทันที่ว่าไม่ใช่เช่นความเปรี้ยวจะเปรี้ยวแบบ น้ำส้มสายชูเพียวๆ ให้รีบวางแก้วเลย

สาเหตุที่ทำให้ไวน์เสีย

มีหลายเหตุปัจจัยที่ทำให้ไวน์เสีย ได้แก่:

  1. การเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม: ไวน์ควรเก็บในที่เย็น มืด และปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการเก็บไวน์แดงคือประมาณ 12-15 องศาเซลเซียส ไวน์ขาว ควรอยู่ระหว่าง 8–12 องศาเซลเซียส
  2. อุณหภูมิที่สูงเกินไป: ความร้อนจะทำให้ไวน์เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ไม่ควรเก็บไวน์ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่นห้องที่มีแสงแดดส่งถึง จะทำให้ไวน์ได้รับความร้อนถึงจะไม่มากก็ทำให้ไวน์เสียได้
  3. การเปิดขวดทิ้งไว้นานเกินไป: เมื่อเปิดขวดไวน์แล้ว อากาศจะเข้าไปทำปฏิกิริยากับไวน์ ทำให้รสชาติและกลิ่นเปลี่ยนไป ควรดื่มไวน์ให้หมดภายใน 2-3 วันหลังเปิดขวด เต็มที่5-7 วัน ขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดของไวน์ สังเกตง่ายๆว่ารสชาติและกลิ่น ความอร่อยจะเริ่มลดลงไปเรื่อยๆจนไม่เหลืออะไรไว้เลย
  4. จุกก๊อกที่ชำรุด: จุกก๊อกที่ชำรุดหรือแห้งเกินไปจะทำให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยากับไวน์ได้ง่ายขึ้น เมื่ออากาศเข้าไปก็ทำปฏิกิริยากับไวน์ เหมือนที่เราเปิดขวดไวน์แล้วดื่มไม่หมด ทำให้ไวน์เสียนั้นเอง

ไวน์เสียดื่มได้ไหม?

ไวน์เสีย

การดื่มไวน์เสียไม่เพียงแต่ทำให้เสียรสชาติ แต่ยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะไวน์เสียอาจมีแบคทีเรียและสารพิษที่ทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ วิงเวียน และหายใจลำบาก ในบางกรณีอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ Toszy house อยากให้ทุกคนสังเกตไวน์ก่อนเริ่มดื่มและไม่เก็บไวน์ไว้นานเกิดกว่าแนะนำเพื่อสุขภาพที่ดีของทุกท่าน

บทความแนะนำ

ไวน์ฝาด

ไขข้อสงสัย ทำไมไวน์ฝาด มารู้จักสารที่อยู่ในไวน์ที่ทำให้ฝาดกัน

ทำไมไวน์มีรสฝาดเพราะสารประกอบที่เรียกว่า แทนนิน (Tannin) แทนนินเป็นสารประกอบที่พบได้ในพืชหลายชนิด เช่น เปลือกไม้ ใบไม้ เมล็ดพืช และผลไม้ แทนนินมีคุณสมบัติทำให้รู้สึกฝาด ขม และแห้งในปาก แทนนินในไวน์มีประโยชน์หลายประการ เช่น Share this… Facebook Line Twitter Pinterest

ทำความรู้จักกับ Decanter โถแก้วทรงสวยงาม คืออะไรและประโยชน์

Decanter คืออะไร….. Decanter (ดีแคนเตอร์) คือโถแก้วทรงสวยงาม ที่ใช้สำหรับรินไวน์จากขวดลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติและอรรถรสในการดื่มไวน์ ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องใช้ Decanter ด้วยล่ะ เทจากขวดไวน์ตรงๆ ไม่ได้เลยเหรอ? เดี๋ยวเราจะมาไขข้อสงสัยกัน Decanter (ดีแคนเตอร์) : ช่วยแยกตะกอนออกจากไวน์ ประโยชน์หลักๆ ของ Decanter คือใช้แยกตะกอนออกจากไวน์ ซึ่งไวน์บางประเภท โดยเฉพาะไวน์แดงที่มีอายุมาก มักจะมีตะกอนสะสมอยู่ การ Decanter

ดื่มอะไรช่วยให้แก้แฮงค์ หลังปาร์ตี้อันแสนหนักหน่วง

ดื่มอะไรช่วยให้แก้แฮงค์วันนี้ Toszy house จะมาแนะนำเครื่องดื่มช่วยแก้แฮงค์กัน คืนนี้คุณปาร์ตี้หนักมาจนดึกดื่น ตื่นเช้ามาก็รู้สึกปวดหัว มึนงง คลื่นไส้ ไม่อยากทำอะไร อาการเหล่านี้เป็นอาการของ แฮงค์ นั่นเอง การแฮงค์เกิดจากร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกมาไม่หมด ส่งผลให้สารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย ทำให้เกิดอาการต่างๆ ตามมา มีเครื่องดื่มหลายชนิดที่เชื่อว่าช่วยแก้แฮงค์ได้ แต่จะได้ผลดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป ความรุนแรงของอาการแฮงค์ และสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และห้ามกินยาพาราในการแก้แฮงค์อย่างเด็ดขาดเป็นอันตรายอย่างมาก อาการแฮงค์ที่พบได้ทั่วไป ได้แก่

Sagrantino องุ่นแดง 1 เดียวที่แทนนินมากและฝาดที่สุด

Sagrantino เป็นองุ่นพื้นเมืองของอิตาลี่ มีชื่อเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาค Umbria โดยเฉพาะรอบๆ เมือง Montefalco องุ่น Sagrantino ปลูกเฉพาะในภูมิภาคอุมเบรียซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของอิตาลี พื้นที่นี้ซึ่งมีมอนเตฟาลโกเป็นศูนย์กลาง มีภูมิประเทศที่เป็นเอกลักษณ์โดยมีลักษณะเป็นดินร่วนปนทราย เอื้อให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมสำหรับการปลูกองุ่นซากรานติโน องค์ประกอบของดินร่วนทรายช่วยให้องุ่นมีความเจริญรุ่งเรือง โดยให้การระบายน้ำที่ดีเยี่ยมและการบำรุงที่เหมาะสมที่สุดสำหรับองุ่นชนิดนี้ องุ่น Sagrantino มีชื่อเสียงในด้านผิวที่หนา ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่ทำให้องุ่นมีสีเข้มและมีแทนนินที่เข้มข้น ผิวที่หนาขององุ่นยังช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูพืช จึงสามารถปลูกฝังได้อย่างยั่งยืน อย่างไรก็ตาม ลักษณะที่แข็งแกร่งขององุ่นนั้นจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างระมัดระวังในระหว่างกระบวนการผลิตไวน์เพื่อดึงศักยภาพสูงสุดออกมาโดยไม่ทำให้เกิดอาการฝาดมากเกินไป ผู้ผลิตไวน์ใช้กระบวนการผลิตไวน์ที่อ่อนโยนและพิถีพิถันเพื่อแสดงคุณลักษณะเฉพาะขององุ่น Sagrantino

ไวน์แดงหนึ่งแก้วมีแคลอรี่เท่าไร

ไขข้อสงสัย ไวน์แดงหนึ่งแก้วมีแคลอรี่เท่าไร

ดื่มไวน์แล้วไม่อ้วนแต่อาจจะยังไม่รู้ว่าในแก้วไวน์แดงที่เราดื่มแก้วนั้นมีปริมาณแคลอรี่ต่อแก้วเท่าไร เรามาดูปริมาณแคลอรี่ต่อแก้วกัน แคลอรี่หลักๆของไวน์แดงที่ดื่มนั้นมาจากไหนกัน? แคลอรี่ในไวน์นั้นมาจากหลักมากจาก ถ้าอยากจะรู้ว่าแคลอรี่ในไวน์นั้นมาขนาดไหน ดูง่ายๆเลยจาก %ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ระบุไว้ในฉลากที่ขวด ยิ่ง%ปริมาณแอลกอฮอล์เยอะแคลอรี่ยิ่งสูงตามเท่านั้น ตัวอย่างเช่น รินไวน์ใส่แก้ว 175ml หรือ 6 ounce ปริมาณแคลอรี่ไม่ได้ตายตัว ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย Toszy house ไปหาข้อมูลอ้างอิงตาม USDA สรุปได้ว่าสำหรับไวน์แดงทั่วไปดื่มบนโต๊ะอาหารแบบ dry wine นั้น ส่วนใหญ่จะมีปริมาณ%แอลกอฮอล์อยู่ที่

แนะนำอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟไวน์

แนะนำอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟไวน์

การดื่มไวน์นั้นอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟไวน์เป็นสิ่งสำคัญมาก อุณหภูมิเปลี่ยนรสชาติ กลิ่นอาจเปลี่ยนไปวันนี้ Toszy house จะมาแนะนำอุณหภูมิในการเสิร์ฟไวน์ที่เหมาะสมกับไวน์แต่ละประเภท 1.ไวน์แดง Medium – Full bodied ไวน์แดงที่มีบอดี้กลางๆไปถึงฟูลบอดี้ เช่นไวน์แดงที่ทำจากองุ่นพันธุ์ cabernet sauvignon , Syrah/Shiraz , Malbec เป็นต้น อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเสิร์ฟนั้นจะอยู่ที่ 60°-65° F หรือ 15-18°C